analyticstracking
หัวข้อ   “ พลังสื่อโซเชียลกับการเมืองไทยยุค 4.0
ประชาชนส่วนใหญ่ 73.9% จะติดตามข้อมูลการเลือกตั้ง การหาเสียงของ กกต.และพรรคการเมืองผ่านสื่อโซเชียล
67.8% เชื่อพลังสื่อโซเชียลจะช่วยกระตุ้นให้เกิดกระแส ทำให้คนอยากออกมาเลือกตั้ง
73.3% มองพลังสื่อโซเชียลทำให้รับรู้สถานการณ์การเมืองมากขึ้นช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทย
 
 
 
ดีมาก (5)
ดี (4)
ปานกลาง (3)
พอใช้ (2)
แย่ (1)
 
 
                 กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ดำเนินการ
สำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “พลังสื่อโซเชียลกับการเมืองไทยยุค 4.0”
โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,192 คน พบว่า
ประชาชนร้อยละ 67.8 เห็นว่าการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ พลังสื่อโซเชียล (IG,
facebook ,twitter) จะช่วยกระตุ้นให้เกิดกระแส ทำให้คนอยากออกมาเลือกตั้ง

รองลงมาร้อยละ 58.4 จะช่วยติดตามกิจกรรมการรณรงค์การเลือกตั้ง และร้อยละ 53.6
จะช่วยสร้างช่องทางให้พรรคการเมืองนำเสนอนโยบายของพรรค
 
                 เมื่อถามว่าพลังสื่อโซเชียลมีผลอย่างไรต่อประชาชนในการสร้าง
ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทย ส่วนใหญ่ร้อยละ 73.3 เห็นว่าทำให้รับรู้
สถานการณ์การเมืองมากขึ้น
รองลงมาร้อยละ 65.9 ทำให้การเมืองเข้าถึงประชาชน
ในวงกว้าง และร้อยละ 52.1 ทำให้มีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้นทั้งเป็นผู้รับและผู้ส่งสาร
 
                  สุดท้ายเมื่อถามว่าจะติดตามหรือไม่หากพรรคการเมืองหรือ กกต.
มีการใช้สื่อโซเชียลประชาสัมพันธ์ข้อมูลการเลือกตั้งหรือ การหาเสียง ส่วนใหญ่
ร้อยละ 73.9 จะติดตาม
ขณะที่ร้อยละ 16.8 จะไม่ติดตาม ที่เหลือร้อยละ 9.3 ยังไม่แน่ใจ
 
 
                 โดยมีรายละเอียดตามประเด็นข้อคำถาม ดังต่อไปนี้
 
             1. ความเห็นต่อพลังสื่อโซเชียล (IG, facebook, twitter) จะมีผลอย่างไรกับการเลือกตั้งที่จะถึง
                 
(เลือกตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)

 
ร้อยละ
ช่วยกระตุ้นให้เกิดกระแส ทำให้คนอยากออกมาเลือกตั้ง
67.8
ช่วยติดตามกิจกรรมการรณรงค์การเลือกตั้ง
58.4
ช่วยสร้างช่องทางให้พรรคการเมืองนำเสนอนโยบายของพรรค
53.6
ช่วยเป็นเวทีให้นักการเมืองมาหาเสียง เช่นไลฟ์สด หรือการดีเบต
49.1
ช่วยตรวจสอบการซื้อสิทธิ์ขายเสียง/หาเสียงแบบมิชอบ
42.7
 
 
             2. ข้อคำถาม “ท่านคิดว่าพลังสื่อโซเชียลมีผลอย่างไรต่อประชาชนในการสร้างความเปลี่ยนแปลง
                  ทางการเมืองไทย”
(เลือกตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)

 
ร้อยละ
ทำให้รับรู้สถานการณ์การเมืองมากขึ้น
73.3
ทำให้การเมืองเข้าถึงประชาชนในวงกว้าง
65.9
ทำให้มีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้นทั้งเป็นผู้รับและผู้ส่งสาร
52.1
เป็นช่องทางการโจมตีการบิดเบือนข้อมูล
39.1
ทำให้เกิดความแตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่าย
37.7
 
 
             3. ข้อคำถาม “ท่านจะติดตามหรือไม่ หากพรรคการเมืองหรือ กกต. มีการใช้สื่อโซเชียล
                  ประชาสัมพันธ์ข้อมูลการเลือกตั้งหรือ การหาเสียง”


 
ร้อยละ
ติดตาม
73.9
ไม่ติดตาม
16.8
ไม่แน่ใจ
9.3
 
 
รายละเอียดการสำรวจ
วัตถุประสงค์การสำรวจ:
                 1) เพื่อสะท้อนความเห็นต่อพลังสื่อโซเชียล (IG, facebook,twitter) จะมีผลอย่างไรกับการเลือกตั้งที่จะถึง
                 2) เพื่อสะท้อนความเห็นว่าพลังสื่อโซเชียลมีผลอย่างไรต่อประชาชนในการสร้างความเปลี่ยนแปลง
                     ทางการเมืองไทย
                 3) เพื่อต้องการทราบถึงติดตามหากพรรคการเมืองหรือ กกต. มีการใช้สื่อโซเชียลประชาสัมพันธ์
                     ข้อมูลการเลือกตั้งหรือการหาเสียง
 
ประชากรที่สนใจศึกษา:
                  การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป โดยการสุ่มสัมภาษณ์
ทางโทรศัพท์จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling)
แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย
 
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error):
                  ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน  3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
 
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล:
                  ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ (Enumeration by telephone) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็น
แบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้นได้นำแบบสอบถาม
ทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
 
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล:  : 20 – 22 มีนาคม 2561
 
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ: 24 มีนาคม 2561
 
สรุปข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่าง:
ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
 
จำนวน
ร้อยละ
เพศ:
   
             ชาย
618
51.8
             หญิง
574
48.2
รวม
1,192
100.0
อายุ:
 
 
             18 – 30 ปี
139
11.7
             31 – 40 ปี
222
18.6
             41 – 50 ปี
332
27.9
             51 – 60 ปี
289
24.2
             61 ปีขึ้นไป
210
17.6
รวม
1,192
100.0
การศึกษา:
 
 
             ต่ำกว่าปริญญาตรี
747
62.7
             ปริญญาตรี
354
29.7
             สูงกว่าปริญญาตรี
91
7.6
รวม
1,192
100.0
อาชีพ:
   
             ลูกจ้างรัฐบาล
174
14.6
             ลูกจ้างเอกชน
289
24.2
             ค้าขาย/ ทำงานส่วนตัว/ เกษตรกร
447
37.5
             เจ้าของกิจการ/ นายจ้าง
63
5.3
             ทำงานให้ครอบครัว
1
0.1
             พ่อบ้าน / แม่บ้าน / เกษียณอายุ
173
14.5
             นักเรียน/ นักศึกษา
34
2.9
             ว่างงาน/ รวมกลุ่ม
11
0.9
รวม
1,192
100.0
 
ติดตามกรุงเทพโพลล์ผ่าน twitter ได้ที่  twitter bangkokpoll
Download PDF file:  
 
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์)    โทร. 0-2350-3500 ต่อ 1770-1776